วัวหนุ่มมักจะทำงานอย่างขยันขันเเข็งและอดทนทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา วัวสาวจึงกล่าวขึ้นมาว่า
“ชีวิตของท่านช่างน่าเบื่อยิ่งนัก ดูนี่ซิ ดูชีวิตข้าสิได้วิ่งเล่นอย่างสบายในทุ่งหญ้า ทุกๆวันเลย”
ครั้นเมื่อถึงฤดูเทศกาล วัวหนุ่มก็ได้มีเวลาที่จะได้หยุดจากการทำงาน ในขณะที่ วัวสาวถูกนำมาฆ่าเพื่อบูชาเทพยดา
วัวหนุ่มจึงคิดขึ้นในใจว่า
“หากมีชีวิตที่มีเเต่เที่ยวเล่นจะต้องพบจุดจบเช่นนี้ ข้าขอทำงานหนักตลอดทั้งชีวิตดีกว่า”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่รู้จักทำงานย่อมมีคุณค่ากว่า
 |
คนตัดฟืนเข้าป่าไปตัดไม้เช่นทุกวัน เขาบังเอิญทำขวานตกลงไป |
ในสระน้ำ
"แย่แล้ว...นี่ฉันจะทำอย่างไรดี ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ฉันไม่มีขวานไว้ตัดฟืนอีกแล้ว"
คนตัดฟืนร้องไห้คร่ำครวญ
เทพารักษ์ที่อยู่ใกล้ๆ เห็นเหตุการณ์ อดสงสารไม่ได้ จึงปรากฏกายให้เห็น แล้วเอื้อมมือลงไปในสระน้ำ คว้าขวานเล่มหนึ่งส่งให้คนตัดฟืน
"โอ...ท่าน...นี่มันขวานทอง ไม่ใช่ขวานของข้าหรอก"
เทพารักษ์จึงงมขวานขึ้นมาให้อีกเล่มหนึ่ง
"นี่ก็ไม่ใช่...ขวานของข้าเป็นแค่เหล็กธรรมดา ไม่ใช่ขวานเงิน"
"เจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ ข้าจะให้ขวานทองแก่เจ้าเป็นรางวัล"
เมื่อพูดจบเทพารักษ์ก็หายตัวไป
คนตัดฟืนนำขวานทองกลับบ้าน พบใครก็เล่าว่า
"ข้าทำขวานหล่นลงไปในสระ เทวดาท่านเลยงมขวานทองมาให้"
เพื่อนบ้านได้ยินดังนั้น จึงทำทีเข้าไปตัดไม้ในป่า แล้วโยนขวานของตนทิ้งลงในน้ำ
" ข้าจะทำยังไงดี ขวานของข้าตกลงไปในน้ำ "
เทพารักษ์จึงปรากฏกายให้เห็น แล้วเอื้อมมือลงไปหยิบขวานทองในสระน้ำ
"ขวานทองเล่มนี้ของเจ้าใช่ไหม ?"
"ใช่แล้วท่าน ขวานทองนี้คือขอข้าเอง"
เพื่อนบ้านผู้โลภมากพูดด้วยความยินดี
"เจ้าคนโกงนี่ไม่น่าคบ" พูดจบ เทพารักษ์ก็หายวับไปพร้อมกับขวานทอง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "โลภมากลาภหาย
Posted in
เทพารักษ์กับคนตัดฟืน,
นิทานอีสป